ผู้เขียน หัวข้อ: บริการด้านอาหาร: อาหารเคราติน ช่วยเร่งผมให้ดกหนา บำรุงเล็บ บำรุงผิว  (อ่าน 3 ครั้ง)

siritidaphon

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 321
  • เวบบอร์ดโพสขายฟรี
    • ดูรายละเอียด
บริการด้านอาหาร: อาหารเคราติน ช่วยเร่งผมให้ดกหนา บำรุงเล็บ บำรุงผิว

เคราติน คือโปรตีนชนิดหนึ่งที่มักพบในเส้นผม ผิวหนังและเล็บของเรา ซึ่งเคราตินถือเป็นสารสำคัญในการช่วยรักษาโครงสร้างผิวหนัง ช่วยเร่งในการสมานแผล รวมถึงยังช่วยรักษาเส้นผมให้ดกหนา และช่วยบำรุงเล็บของเราให้แข็งแรง ไม่เปราะหรือแตกหักง่ายค่ะ

     อาหารเสริมเคราตินสามารถช่วยป้องกันผมร่วง ช่วยเร่งให้เส้นผมและเล็บเจริญเติบโตได้เร็วและยังช่วยบำรุงผิวของเราด้วย อย่างไรก็ตามนอกจากอาหารเสริมเคราติน เราก็ยังสามารถรับประทานอาหารบางชนิดเพื่อให้ร่างกายมีเคราตินมากเพียงพอ ซึ่งอาหารเหล่านี้สามารถช่วยเสริมให้ร่างกายสร้างเคราตินมากขึ้นได้ และไม่เพียงแต่จะช่วยบำรุงให้สุขภาพของเส้นผม ผิวหนังและเล็บของเราดีขึ้นแล้ว แต่ยังอุดมไปด้วยสารอาหารที่เป็นประโยชน์อื่น ๆ อีกมากมายด้วยค่ะ

 10 อาหารช่วยให้ร่างกายสร้างเคราติน

 1. ไข่

การกินไข่เป็นวิธีง่าย ๆ ในการช่วยเร่งให้ร่างกายผลิตเคราตินได้ตามธรรมชาติ ไข่ถือเป็นแหล่งไบโอตินชั้นเยี่ยม ซึ่งเป็นสารอาหารที่จำเป็นต่อการสังเคราะห์เคราติน ยิ่งไปกว่านั้นโปรตีนจากไข่ยังช่วยเสริมการผลิตเคราติน และยังมีสารอาหารที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพอื่น ๆ อีกด้วยทั้งวิตามินบี12 ซีลีเนียม ไรโบฟลาวินหรือวิตามินบี2 และวิตามินเอ

 2. หัวหอม

หัวหอมไม่เพียงแต่เหมาะในการนำมาปรุงอาหารจานโปรดของเราเท่านั้นแต่ยังช่วยให้ร่างกายผลิตเคราตินอีกด้วย นอกจากนี้หัวหอมยังเป็นผักที่มีสาร N-Acetylcysteine (NAC) สูงเป็นพิเศษ สารชนิดนี้ทำหน้าที่ในการช่วยต้านอนุมูลอิสระ และช่วยทำให้ร่างกายของเรามีกรดอะมิโนชนิดหนึ่งที่ชื่อว่า L-Cysteine ​​ซึ่งเป็นส่วนประกอบของเคราติน หัวหอมยังให้โฟเลต ซึ่งเป็นสารอาหารรองที่จำเป็นต่อการบำรุงรากผมให้แข็งแรงอีกด้วย

 3. แซลมอน

ปลาแซลมอนเต็มไปด้วยโปรตีนและยังเป็นแหล่งไบโอตินที่ดีเยี่ยม สารอาหารทั้ง 2 ชนิดนี้เป็นสารอาหารสำคัญที่ช่วยให้ร่างกายสร้างเคราตินได้ และนอกจากนี้ปลาแซลมอนยังมีกรดไขมันโอเมก้า 3 สูง ซึ่งเป็นไขมันที่มีประโยชน์ต่อหัวใจ ช่วยเพิ่มการเจริญเติบโตของเส้นผม เพิ่มความหนาของเส้นผม ทำให้ผมดกดำเงางาม และยังสามารถช่วยป้องกันผมร่วงได้ค่ะ

 4. มันเทศ

นอกจากจะเป็นหนึ่งในผักที่มีสีสันสดใสและหลากหลายแล้ว มันเทศยังมีคุณค่าทางโภชนาการสูง เหมาะสำหรับการช่วยให้ร่างกายสามารถผลิตเคราตินได้ มันเทศมีโพแทสเซียม แมงกานีส วิตามินบี6 วิตามินซี รวมถึงยังมีแคโรทีนอยด์และโปรวิตามินเอสูง ซึ่งโปรวิตามินเอสามารถช่วยให้ร่างกายสังเคราะห์เคราตินได้ และโปรวิตามินเอก็ยังจำเป็นต่อสุขภาพผิวและผมอีกด้วย

 5. เมล็ดทานตะวัน

หลายคนรับประทานเมล็ดทานตะวันเป็นของว่างระหว่างมื้อ ซึ่งเมล็ดทานตะวันเป็นแหล่งอาหารที่ดีของทั้งไบโอตินและโปรตีน และยิ่งไปกว่านั้นเมล็ดพืชชนิดนี้ยังอุดมไปด้วยสารอาหารรองอื่น ๆ อีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นวิตามินอี คอปเปอร์ ซีลีเนียมและกรดแพนโทธีนิก ซึ่งสารอาหารทั้งหมดนี้เหมาะแก่การช่วยให้ร่างกายผลิตเคราตินได้มากขึ้นค่ะ

 6. มะม่วง

มะม่วงผลไม้ท้องถิ่นที่ในบ้านเราสามารถหาได้ง่ายและราคาไม่แพง มะม่วงเป็นผลไม้ที่อร่อยและยังช่วยให้ร่างกายผลิตเคราตินได้ดี เพราะผลไม้ชนิดนี้อุดมไปด้วยโปรวิตามินเอ วิตามินซีและโฟเลต ซึ่งเป็นสารอาหารสำคัญสำหรับสุขภาพผิว เล็บและเส้นผม

 7. กระเทียม

เช่นเดียวกับหัวหอม กระเทียมมีสารอาหารที่มีประโยชน์มากมาย เช่น แมงกานีส วิตามินบี6 วิตามินซี รวมถึงยังมีสาร N-Acetylcysteine (NAC) มากมาย และร่างกายจะค่อย ๆ เปลี่ยนให้เป็นสาร L-Cysteine ​​ซึ่งเป็นกรดอะมิโนที่พบในเคราติน กระเทียมสามารถช่วยรักษาสุขภาพผิวได้ โดยสามารถช่วยปกป้องเซลล์เคราติโนไซต์ ซึ่งเซลล์ชนิดนี้มีหน้าที่ในการผลิตเคราติน ช่วยสมานแผล ต่อสู้กับการติดเชื้อและช่วยลดริ้วรอยแห่งวัย

 8. คะน้า

คะน้าเป็นผักใบเขียวที่มีสารอาหารสำคัญต่อร่างกายมากมาย คะน้าเป็นแหล่งโปรวิตามินเอชั้นดีที่ช่วยให้ร่างกายสังเคราะห์เคราตินได้ และนอกจากนี้ยังเป็นแหล่งวิตามินซี วิตามินดี วิตามินอีและวิตามินเค ซึ่งวิตามินเหล่านี้ช่วยทำหน้าที่ในการเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยกระตุ้นการผลิตคอลลาเจน ทำให้ผิวมีความแข็งแรงและช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นของผิว

 9. ตับ

ตับเป็นแหล่งของไบโอตินที่มีมากที่สุดชนิดหนึ่ง ซึ่งการรับประทานตับทำให้ร่างกายสามารถเพิ่มการผลิตเคราตินตามธรรมชาติได้ นอกจากนี้ตับยังให้โปรตีน วิตามินบี12 โฟเลต ไรโบฟลาวิน ธาตุเหล็กและวิตามินเอ ซึ่งมีส่วนสำคัญในการบำรุงร่างกายค่ะ

 10. แครอท

แครอทเป็นผักประเภทหัวที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูง เพราะในแครอทมีโปรวิตามินเอและวิตามินซี ซึ่งสารอาหารทั้ง 2 ชนิดนี้สามารถช่วยเสริมให้ร่างกายสังเคราะห์คอลลาเจนและนำไปบำรุงสุขภาพผม ผิวหนังและเล็บ นอกจากนี้วิตามินซีและสารอาหารอื่น ๆ ในแครอท ไม่ว่าจะเป็นไบโอติน วิตามินบี6 โพแทสเซียม และวิตามินเค ยังช่วยสมานแผล ช่วยบรรเทาอาการอักเสบและป้องกันความเสียหายของผิวหนังจากการโดนแสงแดดได้