ผู้เขียน หัวข้อ: เที่ยววัด ไหว้พระกลางคืน ที่ไหนดี ในกรุงเทพฯ เปิดดึกเอาใจสายมูคนกลางคืน  (อ่าน 41 ครั้ง)

siritidaphon

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 436
  • เวบบอร์ดโพสขายฟรี
    • ดูรายละเอียด
เที่ยววัด ไหว้พระกลางคืน ที่ไหนดี ในกรุงเทพฯ เปิดดึกเอาใจสายมูคนกลางคืน

ด้วยการไหว้พระขอพรเพื่อความเป็นสิริมงคลตามคติเทวะมันตรา แต่ถ้าจะให้ไปตอนกลางวันคงธรรมดาเกินไป ลองเปลี่ยนบรรยากาศไปเที่ยววัด ไหว้พระกลางคืน กันดีกว่า จะมีวัด ศาลเจ้าที่ไหนที่เปิดให้ไหว้พระ ไหว้เทพเจ้ายามค่ำคืนบ้าง เรามีมาฝากกันแล้ว ดังนี้


1. วัดหัวลำโพง

          วัดหัวลำโพง เดิมชื่อ วัดวัวลำพอง สันนิษฐานว่าสร้างในสมัยต้นกรุงรัตนโกสินทร์ อีกทั้งยังเป็นที่ตั้งของโรงเรียนวัดหัวลำโพง และมูลนิธิร่วมกตัญญู ตัววัดตั้งอยู่ติดกับสถานีสามย่าน รถไฟฟ้ามหานคร ตรงข้ามฝั่งถนนกับ สามย่านมิตรทาวน์ จัตุรัสจามจุรี และ คริสตจักรสามย่าน เป็นวัดที่เปิดตลอด 24 ชั่วโมง และเดินทางสะดวก จึงเหมาะสำหรับเป็นสถานที่ไหว้พระกลางคืนอย่างมาก

          จุดเด่นของวัดหัวลำโพง คือ การทำบุญโลงศพ มีผู้คนจำนวนมากเข้ามาบริจาคโลงศพเพื่อศพไร้ญาติ อีกทั้งใครที่มาที่นี่ต้องเข้าไปกราบไหว้พระประธานในโบสถ์ ซึ่งเป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัย พระนามว่า พระพุทธมงคล ตามความเชื่อแล้วจะช่วยป้องกันภัยจากศัตรูทั้งในเรื่องของการงานและการเงินต่าง ๆ

          การเดินทางไปวัดหัวลำโพงที่แนะนำคือ รถไฟฟ้า MRT ลงที่สถานีสามย่าน ทางออก 1 เลี้ยวซ้าย แล้วเดินตรงไปประมาณ 100 เมตร จะเห็นวัดหัวลำโพงอยู่ซ้ายมือ

    เวลาเปิด-ปิด : ทุกวัน ตั้งแต่เวลา 04.00-21.00 น. (เปิดให้ทำบุญตลอด 24 ชั่วโมง)


2. เทวาลัยพระพิฆเนศ ห้วยขวาง

          เทวาลัยพระพิฆเนศ ตั้งอยู่ในบริเวณสี่แยกห้วยขวาง เป็นพิกัดของสายบุญ สายมู ที่นิยมมากราบไหว้สักการะขอพรเพื่อความเจริญรุ่งเรืองในเรื่องต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นการสอบเข้า การเรียน การงาน ครอบครัว ความรัก สุขภาพ ส่วนใหญ่แล้วคนจะนิยมมาไหว้ทั้งองค์พระพิฆเนศปางยืนประทานพร พระราหู พระตรีมูรติ พระศิวะ และพระแม่อุมาเทวี เพราะที่นี่มีให้สักการะครบเลย

          สาเหตุที่คนนิยมมาไหว้ขอพรองค์พระพิฆเนศปางประทานพร หรือ พระกษิประคณปติ เพราะเป็นปางแห่งการประทานพรให้เกิดผลสำเร็จ ซึ่งมีความเชื่อว่าให้พรรวดเร็วกว่าปางอื่น ๆ โดยลักษณะขององค์พระพิฆเนศปางนี้ คือ มีเศียร 1 เศียร มี 4 กร แต่ละกรทรงถือบ่วง วัชระ งา และขนมโมทกะ ยืนประทานพรอยู่บนดอกบัวบาน ท่าทางกำลังจะย่างก้าวเดิน ส่วนพระหัตถ์ซ้ายจะถือโถเงินทองเต็มโถจนล้น ว่ากันว่าผู้ที่บูชาจะได้รับพร ความมั่งคั่งร่ำรวย อุดมสมบูรณ์ มีกินมีใช้ ขจัดอุปสรรคทั้งปวง
เทวาลัยพระพิฆเนศ ห้วยขวาง

          สำหรับการเดินทางมาสักการะ แนะนำว่าให้ใช้รถไฟฟ้า MRT ลงที่สถานีห้วยขวาง ทางออก 4 ตรงสี่แยกรัชดาภิเษก-สุทธิสาร พอออกจากสถานีมาแล้วให้เลี้ยวซ้าย เดินตรงไปประมาณ 100 เมตร เทวาลัยพระพิฆเนศจะตั้งอยู่บริเวณริมสี่แยกติดถนนเลย

    เวลาเปิด-ปิด : ทุกวัน ตั้งแต่เวลา 12.00-24.00 น.

     
3. วัดแขก (สีลม) หรือวัดพระศรีมหาอุมาเทวี

           วัดแขก สีลม หรือชื่อเต็ม ๆ ว่า วัดพระศรีมหาอุมาเทวี เป็นสถาปัตยกรรมที่สวยงามด้วยลักษณะของโบสถ์พราหมณ์ เป็นหนึ่งในวัดที่มีความสำคัญและเป็นที่รู้จักกันอย่างแพร่หลายในกรุงเทพฯ ซึ่งมีประวัติความเป็นมาที่น่าสนใจเป็นอย่างมาก เริ่มก่อสร้างตั้งแต่ปี พ.ศ. 2453-2454 เป็นวัดของศาสนาฮินดู มีเทพศักดิ์สิทธิ์เป็นที่เคารพนับถือหลัก คือ พระแม่มริอัมมัน และยังมีองค์เทพประดิษฐานอยู่อีกหลายองค์ ซึ่งถือว่าเป็นเทวสถานอยู่ในลัทธิศักติ มีการนับถือเทวีเป็นหลัก เช่น พระศรีมหาอุมาเทวี ซึ่งเป็นพระชายาของพระศิวะ

          นอกจากการเข้ามาสักการะตามปกติ ยังมีช่วงเทศกาลสำคัญที่เรียกกันว่า เทศกาลนวราตรี หรือเทศกาลดูเซร่า จัดขึ้นในช่วงวันขึ้น 1-9 ค่ำ เดือน 11 เทศกาลนี้จัดขึ้นทั้งหมด 9 วัน 9 คืน ตามความเชื่อของชาวฮินดู มีการแห่พระแม่ และเชื่อว่าขบวนเทพของพระแม่จะมีการเสด็จลงมายังโลกมนุษย์ เพื่อมอบพรให้แก่ผู้คนที่เข้ามาสักการะ เป็นพิธีที่มีความยิ่งใหญ่ โดยจะแห่กันบนถนนสีลม เคลื่อนจากวัดแขก สีลม ออกมา ซึ่งในวันแห่จะมีการทุบมะพร้าว และปามะพร้าวลงบนพื้น เป็นความเชื่อของชาวฮินดูที่ว่า มะพร้าวเปรียบดั่งผลไม้แห่งเทพเจ้า ซึ่งมีความสะอาด บริสุทธิ์ และศักดิ์สิทธิ์ การทุบมะพร้าวต่อหน้าพระพักตร์เทวรูป สะท้อนความเชื่อว่าเป็นการทำลายทิ้งซึ่งอัตตาของตน และถวายตนแด่เทพเจ้า

          วัดแขก (สีลม) ตั้งอยู่เลขที่ 2 ถนนสีลม แขวงสีลม เขตบางรัก ของกรุงเทพฯ สำหรับการเดินทางก็ไม่ยุ่งยาก เพราะห่างจากสนามหลวงราว 3 กิโลเมตร มีจุดเชื่อมต่อการเดินทางที่สะดวกสบาย เดินทางมาได้หลายวิธี ไม่ว่าจะเป็นรถประจำทางสาธารณะ, รถไฟฟ้า BTS เริ่มต้นจากสถานีช่องนนทรี มายังสถานีสีลม เดินเท้าไปใช้บริการวินมอเตอร์ไซค์อีกต่อก็ถึงที่หมายได้อย่างรวดเร็ว

    เวลาเปิด-ปิด : ทุกวัน ตั้งแต่เวลา 06.00-20.00 น. (ในวันที่มีขบวนแห่พิธีนวราตรี วัดจะเปิดจนถึง 00.00 น.)

     
4. ศาลท้าวมหาพรหม แยกราชประสงค์

          ศาลท้าวมหาพรหม หรือ พระพรหมเอราวัณ ตั้งอยู่หน้าโรงแรมแกรนด์ ไฮแอท เอราวัณ บริเวณสี่แยกราชประสงค์ ถนนราชดำริ แขวงลุมพินี เขตปทุมวัน กรุงเทพฯ เป็นหนึ่งในบรรดาศาลบริเวณแยกราชประสงค์ที่ผู้คนจำนวนมากทั้งชาวไทยและต่างชาติให้ความศรัทธาและมากราบไหว้บูชาอย่างต่อเนื่อง
          พระพรหมเอราวัณ ถือเป็นศาลพระพรหมศาลแรกที่มีขนาดใหญ่ ตามความเชื่อของศาสนาฮินดู พระพรหมเป็นพระผู้สร้าง และทรงมี 4 พักตร์ แต่ละพักตร์เป็นดั่งสัญลักษณ์แทนทิศทั้งสี่ คือ เหนือ ใต้ ตะวันออก และตะวันตก ทำให้พระองค์สามารถมองเห็นและปกปักรักษาได้ทั้งโลกมนุษย์และสวรรค์ ช่วยปัดเป่าความขัดข้อง อุปสรรค ส่งเสริมโชคและความสำเร็จของผู้สักการะที่มีจิตศรัทธาให้สมปรารถนา

          ในปัจจุบัน ศาลท้าวมหาพรหม โรงแรมเอราวัณ อยู่ในความดูแลของ มูลนิธิทุนท่านท้าวมหาพรหม นักท่องเที่ยวหรือผู้สนใจเข้าเยี่ยมชมสักการะศาลท่านท้าวมหาพรหม โรงแรมเอราวัณอันศักดิ์สิทธิ์ สามารถเข้าสักการะได้ทุกวัน ไม่มีวันหยุด โดยไม่เสียค่าธรรมเนียมแต่อย่างใด

          การเดินทางไปไหว้ศาลท้าวมหาพรหม แยกราชประสงค์ สามารถเดินทางไปได้หลากหลายช่องทาง ซึ่งทางที่สะดวกที่สุดคือการเดินทางด้วยรถไฟฟ้า BTS ลงสถานีสยาม ทางออก 6 จากนั้นเดินต่อมายังสะพานทางเดินเชื่อมสกายวอล์ก ซึ่งจะถึงทางลง ศาลท้าวมหาพรหม ให้ลงบันไดที่เชื่อมกับอมรินทร์ พลาซ่า ด้านซ้ายมือ แล้วเดินมุ่งหน้าขึ้นไปทางสี่แยกราชประสงค์ หรือเลือกเดินทางรถไฟฟ้า BTS ลงสถานีชิดลม จากนั้นเดินสะพานทางเชื่อมสกายวอล์กย้อนกลับมาทางสี่แยกราชประสงค์

    เวลาเปิด-ปิด : ทุกวัน ตั้งแต่เวลา 06.00-22.00 น.

     
5. วัดปทุมวนารามราชวรวิหาร

          วัดปทุมวนารามราชวรวิหาร ถืออีกเป็นวัดหนึ่งที่อยู่ใจกลางเมืองกรุง ท่ามกลางตึกสูงเสียดฟ้า ห้างสรรพสินค้าชื่อดัง เป็นพระอารามหลวงชั้นตรี สร้างขึ้นในสมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 4 เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแก่สมเด็จพระเทพศิรินทราบรมราชินี พระมเหสี และพระราชทานนามวัดว่า วัดปทุมวนาราม แต่ชาวบ้านมักเรียกกันว่า วัดสระปทุม หรือ วัดสระ
          ภายในวัดปทุมวนารามมีอุโบสถ 2 หลัง โดยอุโบสถหลังแรกเป็นที่ประดิษฐานของ พระเสริม และ พระแสน โดยพระเสริมนั้นถูกอัญเชิญมาจากประเทศลาว ภายหลังจากที่กองทัพสยามเดินทางไปตีเมืองเวียงจันทน์เพื่อปราบกบฏเจ้าอนุวงศ์ในสมัยรัชกาลที่ 3 ซึ่งพระราชธิดาของกษัตริย์ล้านช้างทั้ง 3 พระองค์ เป็นผู้สร้างพระพุทธรูปนี้ขึ้น และถวายนามของพระองค์เองให้เป็นชื่อของพระพุทธรูป ส่วนภายในอุโบสถหลังที่สอง เป็นที่ประดิษฐานของ พระสายน์ ซึ่งถูกอัญเชิญมาจากถ้ำที่เมืองมหาไชย แขวงล้านช้าง ในสมัยรัชกาลที่ 4 พร้อมกับพระแสนในอุโบสถหลังแรก โดยพระแสนและพระสายน์นั้นต่างก็มีความศักดิ์สิทธิ์ในด้านการขอฝน เมื่อใดที่เกิดฝนแล้งขึ้น หากอัญเชิญพระพุทธรูปทั้งสององค์ออกมากลางแจ้งก็จะสามารถบูชาขอฝนได้

          ที่วัดปทุมวนารามแห่งนี้ ที่พระวิหารและอุโบสถ คนที่อยากทำบุญ นั่งสมาธิ สามารถมาได้ทั้งวัน โดยตอนเช้ามีทำวัตรเช้าที่พระวิหาร 08.30 น. ส่วนที่ศาลาพระราชศรัทธา เปิด 06.00-21.00 น. มีทำวัตรเย็น 17.00-18.00 น. และสวดมนต์ตั้งแต่ 18.30 น. ต่อด้วยนั่งสมาธิ/ฟังธรรม ถึงประมาณ 20.30 น. ระหว่างวันเปิดเสียงธรรมบรรยายสลับสับเปลี่ยนกันไป ผู้ปฏิบัติสามารถเจริญสติ นั่งสมาธิ เดินจงกรมได้

          สำหรับการเดินทาง แนะนำเป็นรถไฟฟ้า BTS ลงสถานีสยาม ทางออก 5 เดินบนสกายวอล์กที่จะไปเซ็นทรัลเวิลด์ จะมีทางออกลงวัดปทุมวนาราม อยู่ทางด้านซ้ายมือ

    เวลาเปิด-ปิด : ทุกวัน ตั้งแต่เวลา 07.00-18.00 น. (ศาลาพระราชศรัทธา เปิด 06.00-21.00 น.)


6. วัดราษฎร์ศรัทธาธรรม หรือวัดบางชัน คันนายาว

          วัดราษฎร์ศรัทธาธรรม หรือ วัดบางชัน ตั้งอยู่ที่รามอินทรา ซอย 109 (ซอยพระยาสุเรนทร์) เป็นอีกหนึ่งวัดที่มีผู้คนเข้ามากราบไหว้ขอพรท้าวเวสสุวรรณกันอย่างไม่ขาดสาย ซึ่งทางวัดได้เปิดให้ผู้มีจิตศรัทธาเข้ามากราบไหว้ขอพร ขอโชคลาภกันได้ตลอด 24 ชั่วโมง

          วัดราษฎร์ศรัทธาธรรม เป็นวัดเก่าแก่ริมคลองบางชัน สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2435 นอกจากท้าวเวสสุวรรณแล้ว ภายในวัดยังมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์อื่น ๆ ให้นักท่องเที่ยวเข้ามากราบไหว้ขอพรกันอย่าง พระพุทธชินราชจำลอง พระพิฆเนศ พระพุทธรูปโบราณทรงเครื่องสมัยปลายกรุงศรีอยุธยา และรัตนโกสินทร์ตอนต้น หลวงพ่อสุริโยไท พระพุทธรูปหล่อศิลปะสมัยต้นกรุงศรีอยุธยา ปางอุ้มบาตร เป็นพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ที่ประชาชนคนในพื้นที่ให้ความเคารพนับถือ

          สำหรับ ท้าวเวสสุวรรณ มีความเชื่อกันว่า ผู้ใดห้อยบูชาท้าวเวสสุวรรณ จะบังเกิดโชคลาภมากมาย ร่ำรวยเงินทอง มีกินมีใช้ไม่ขาด แก้ปีชง เสริมปีชง เทพแห่งปีชง ป้องกันภัยจากสิ่งที่มองเห็นและมองไม่เห็น ป้องกันภูตผีวิญญาณต่าง ๆ ไม่ให้มาทำอันตรายใด ๆ และยังสามารถกันภูตผีปีศาจ คุณไสย มนตร์ดำได้หมด โดยส่วนมากจะพบเห็นในรูปลักษณ์ของยักษ์ยืนถือกระบองยาวหรือคทา (ไม้เท้าเป็นรูปกระบอง) แต่ก็ยังมีรูปเคารพในรูปของชายนั่งในท่า มหาราชลีลา มีลักษณะอันโดดเด่นคือพุงพลุ้ยอีกด้วย ดังนั้น ภาพลักษณ์ของท้าวกุเวรที่เป็นชายพุงพลุ้ย ในความเชื่อว่าเป็นเทพแห่งความร่ำรวย แต่ท้าวเวสสุวรรณซึ่งมาในรูปของยักษ์ในความเชื่อ เป็นเครื่องรางของขลังป้องกันภูตผีปีศาจ

          การเดินทางไปวัดบางชัน จากถนนรามอินทราเลี้ยวเข้าสู่ถนนพระยาสุเรนทร์ ตรงเข้าไปประมาณ 500 เมตร วัดจะอยู่ทางด้านซ้ายมือ บริเวณซอยพระยาสุเรนทร์ 1 หรือจะนั่งรถไฟฟ้า BTS สายสีชมพู ลงสถานีบางชัน แล้วเดินเข้าซอย 12 นาที ก็ถึงวัดแล้ว

    เวลาเปิด-ปิด : ทุกวัน ตลอด 24 ชั่วโมง

          วัด ศาลเจ้า และสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ในสมัยนี้ มีการปรับตัวให้เข้ากับยุคสมัยมากขึ้น ขยายระยะเวลาเปิด-ปิดมากขึ้น บางที่ถึงขั้นเปิดตลอด 24 ชั่วโมงเลยก็มี เพื่อสนองกับความต้องการของผู้คนที่อยากเข้าวัด ทำบุญ สงบจิตสงบใจ กราบไหว้สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ในช่วงเวลาหลังเลิกงาน เลิกเรียน หรือตอนกลางคืน ใครที่เบื่อ ๆ หรือนอนไม่หลับตอนกลางคืน อยากหาที่ทำบุญ ก็ลองแวะไปไหว้พระกลางคืนในกรุงเทพฯ ที่เราแนะนำได้เลยนะ