ผู้เขียน หัวข้อ: บริการด้านอาหาร: สุดยอดอาหาร บำรุงหัวใจให้แข็งแรง  (อ่าน 90 ครั้ง)

siritidaphon

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 336
  • เวบบอร์ดโพสขายฟรี
    • ดูรายละเอียด
บริการด้านอาหาร: สุดยอดอาหาร บำรุงหัวใจให้แข็งแรง

โรคหลอดเลือดหัวใจตีบ เป็นอีกหนึ่งโรคที่มีความรุนแรง และสามารถทำให้เสียชีวิตได้ โดยโรคหลอดเลือดหัวใจตีบเป็นโรคที่ทำให้เสียชีวิตมากเป็นอันดับสองรองลงมาจากโรคมะเร็ง หากรู้ตัวว่าเป็นแล้วต้องมีการดูแลตนเองเป็นอย่างดี เพื่อยืดอายุให้ยาวนานขึ้น ด้วยการปรับพฤติกรรมและปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด หากกระทำได้อย่างเหมาะสมก็จะสามารถต่อเวลาชีวิตออกไปได้ แต่เราก็สามารถดูแลตัวเองได้ด้วยการรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ เพื่อลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือด และช่วยในเรื่องของการบำรุงหัวใจให้แข็งแรงด้วย

ในปัจจุบัน มีผู้ป่วยโรคหัวใจเพิ่มขึ้นเป็นจำนวนมากในแต่ละปี ซึ่งหนึ่งในสาเหตุนั่นก็คือ พฤติกรรมการใช้ชีวิตที่ไม่ระมัดระวัง ทั้งความเครียดจากการทำงาน หรือแม้แต่อาหารการกินที่เลือกรับประทาน ก็เป็นต้นเหตุของการเกิดโรคภัยไข้เจ็บได้ ดังนั้น การเลือกรับประทานอาหารจึงมีความสำคัญมากต่อการดำรงชีวิตควบคู่ไปกับการดูแลรักษาสุขภาพ ซึ่งเราสามารถดูแลตัวเองได้ โดยหลีกเลี่ยงพฤติกรรมที่เป็นปัจจัยเสี่ยง ควบคุมอาหาร ลดหวาน มัน เค็ม รับประทานผัก ผลไม้ และดื่มน้ำอย่างน้อยวันละ 2-3 ลิตร รับประทานอาหารแต่พออิ่ม หลังกินเสร็จพัก 30 นาทีถึง 1 ชั่วโมง เพราะหลังรับประทานอาหารเลือดจะไปเลี้ยงที่ท้อง หากไม่พักจะทำให้เจ็บหน้าอกได้ ซึ่งวันนี้ทางเราจะมาพูดถึงสุดยอดอาหารที่จะช่วยบำรุงร่างกายให้แข็งแรงว่ามีอะไรบ้าง เพื่อเป็นแนวทางให้กับคนอยากหันมาดูแลสุขภาพด้วยการรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ เพื่อให้มีร่างายและสุขภาพที่แข็งแรง

 สำหรับอาหารเป็นเป็นอาหารเพื่อสุขภาพสำหรับบำรุงหัวใจให้มีความแข็งแรง ได้แก่อาหารประเภท ถั่วฝักยาว ซึ่งเป็นหนึ่งในพืชตะกูลถั่ว ที่นับว่าเป็นแหล่งโปรตีนชั้นเลิศที่ไม่มีไขมันเลว จะช่วยลดความเสี่ยงต่อการเป็นโรคหัวใจลงไปได้ถึง 22% รวมถึงช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดของคนที่เป็นเบาหวานได้อีกด้วย ต่อมาคือ ผลไม้อย่างบีทรูท ที่อุดมไปด้วยไนเตรท ซึ่งเป็นสารที่ช่วยลดการสะสมของไขมันและลดการอุดตันในกระแสเลือด อีกทั้งยังช่วยเพิ่มการไหลเวียนของเลือดให้ไปเลี้ยงส่วนต่างๆ ได้ดียิ่งขึ้น และแน่นอนว่าบีทรูทยังสามารถช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคหัวใจได้ เพิ่มความแข็งแรงของสุขภาพหัวใจให้ห่างไกลโรค ต่อมาอาหารประเภทเนื้อสัตว์อย่างปลาแซลมอน เป็นแหล่วงโอเมก้า-3 ชั้นดี ที่นอกจากจะช่วยบำรุงสมองเสริมความจำแล้ว ยังสามารถลดความเสี่ยงในการเกิดภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะได้ดีอีกด้วย

เพราะในปลาแซลมอนนั้นอุดมไปด้วยกรดดีเอชเอที่มีส่วนช่วยในการลดการติดเชื้อ ป้องกันไม่ให้หลอดเลือดแข็งตัว การเกิดหัวใจวาย และลดความเสี่ยงต่อการเป็นโรคหลอดเลือดสมอง โรคความดัน ต่อมาคือ กระเทียม เป็นสิ่งที่ช่วยควบคุมระดับคอเลสเตอรอลอย่างดี โดยการช่วยทำลายคอเลสเตอรอลและไขมันที่ติดอยู่กับผนังด้านในของหลอดเลือด และทำให้เกิดความยืดหยุ่น เมื่อเลือดไหลเวียนสะดวก หลอดเลือดแข็งแรง ก็ส่งผลดีต่อสุขภาพหัวใจ ต่อมาคือ ขนมอย่าง ดาร์กช็อกโกแลต ซึ่งมีสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยในเรื่องของความดันโลหิต ลดปัจจัยที่ทำให้เกิดการแข็งตัวของเลือด

รวมถึงช่วยลดอาการหัวใจวายและโรคหลอดเลือดสมองในคนที่มีความเสี่ยงสูงได้ แต่ก็ไม่ใช่ว่าช็อกโกแลตทุกอย่างที่จะดีต่อหัวใจ เพราะช็อกโกแลตที่เราบอกมานั้น จะต้องทำมาจากโกโก้อย่างน้อย 60-70% ต่อมาผลไม่ตระกูลเบอร์รี่ มีประโยชน์ต่อหัวใจมากเช่นกัน ยิ่งถ้าในกลุ่มคนที่อายุตั้งแต่ 25 ปีขึ้นไป ถ้าได้รับประทานผลไม้ตระกูลนี้เป็นประจำ มักพบว่าสามารถช่วยลดความเสี่ยงของอาการหัวใจวายลงได้ถึง 32% เพราะในผลไม้ตระกูลนี้มีสารแอนโทไซยานินและสารฟลาโวนอยด์ ที่เป็นสารต้านอนุมูลอิสระชั้นดี ที่ช่วยลดความดันโลหิตและขยายหลอดเลือดหัวใจได้ดี

ต่อมาคือ แปะก๊วย หนึ่งในสมุนไพรชั้นเลิศที่ขึ้นชื่อเรื่องของการบำรุงสมอง ช่วยให้มีความจำดีขึ้น เรียกว่าเป็นยาธรรมชาติที่มีประสิทธิภาพในการรักษาโรคหลอดเลือดสมอง นอกจากนี้ ใบแปะก๊วยก็ยังมีสรรพคุณในการช่วยขยายหลอดเลือด ช่วยให้เลือดไหลเวียนได้ดีขึ้น ช่วยป้องกันและลดการแข็งตัวของเกล็ดเลือด เพราะถ้าเลือดสาารถไหลเวียนไปเลี้ยงส่วนต่าง ๆ ได้ดี ก็ถือว่าเป็นการช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับหัวใจได้เหมือนกัน อาหารประเภทสุดท้ายคือ ถั่ววอลนัท ช่วยให้เซลล์บุผนังหลอดเลือดทำงานได้ดี ช่วยป้องกันหลอดเลือดตีบ ช่วยลดคอเลสเตอรอล และยังลดความเสี่ยงโรคหัวใจอีกด้วย

เพราะทางเราอยากให้ทุกคนมีสุขภาพที่ดี ซึ่งเน้นย้ำมาตลอดให้ทุกคนเลือกรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ ในปริมาณที่เหมาะสมต่อความต้องการของร่างกาย และที่สำคัญควรจะหมั่นออกกำลังกายเพื่อให้ร่างกายแข็งแรง ลดความเสี่ยงของการเกิดโรคต่างๆได้อย่างมีประสิทธิภาพ