เที่ยววัดบางขุนเทียน เที่ยวทีเดียวได้ครบ 3 วัด เที่ยวทีเดียวได้ครบ 3 วัด เพราะว่า วัดบางขุนเทียนมี 3 วัด คือ บางขุนเทียนใน บางขุนเทียนกลาง และบางขุนเทียนนอก ซึ่งอยู่ใกล้ชิดกัน สามารถเดินชมเป็นทริปเดียวกันได้สบาย ๆ เป็นมินิซีรีย์เลย ครับ เป็นนวัดขนาดเล็ก แต่มีประวัติศาสตร์และสิ่งที่น่าสนใจ ทำให้เราเพลิดเพลินกันแถมได้บุญอีกต่างหาก 3 วัด เลข 3 ก็ดูเป็นเลขมงคล แต่ไม่เชิงเป็นประเภทตำนานพระ 3 พี่น้องครับ
ผมขอเริ่มจากวัด บางขุนเทียนใน ก่อนแล้วกันนะครับ สามารถเข้าทาง ซอยจอมทอง 13 หรือเรียกว่าซอยเลิศพัฒนาใต้ ตรงเข้าไปประมาณ 1 กิโลเมตร วัดบางขุนเทียนใน ถือเป็นวัดที่ใหม่ที่สุดในบรรดาทั้ง 3 วัด แต่ก็สร้างมาตั้งแต่ปี 2300 คือสมัยอยุธยาตอนปลายเลยทีเดียว ตั้งอยู่ริมคลองบางขุนเทียน เดิมชื่อวัดขนุน
ซึ่งน่าจะมีการบูรณะปฏิสังขรณ์ครั้งใหญ่ในสมัยรัชกาลที่ 3 ดูจากรูปแบบการก่อสร้าง ถึงแม้จะมีเครื่องบนหรือหลังคาตามขนบการสร้างวัดไทยทั่วไป คือมี ช่อฟ้า ใบระกา หางหงส์ ไม่ได้เป็นแบบ "ราชนิยม" ตามแบบวัดส่วนใหญ่ที่สร้างในสมัยรัชกาลที่ 3 แต่ก็พอจะมองเห็นได้จากสิ่งอื่น ๆ
อย่าง ซุ้มประตู ทำให้นึกถึงวัดพระเชตุพนฯ หรือ วัดโพธิ์ คือ มีซุ้มประตูปูนปั้นรูปนาฬิกาฝรั่ง รวมถึงซุ้มเสมาที่เป็นแบบจีนเช่นกัน
จะมีเสาพาไลที่รับน้ำหนักด้านนอกแทนผนังแบบสมัยอยุธยา ซึ่งเป็นที่นิยมมากในสมัยรัชกาลที่ 3 มักจะเป็นเสาสี่เหลี่ยมไม่มีบัวหัวเสา แต่เสาพระอุโบสถวัดบางขุนเทียนในนี้ดูมีขนาดเล็กกว่าวัดอื่น ๆ แบบเห็นได้ชัด อาจจะเนื่องมาจากเป็นวัดราษฎร์ไม่ได้สร้างใหญ่โตแบบฝีมือช่างหลวง ลวดลายที่เพดานสีเขียววาดไว้อย่างสวยงาม จริง ๆ ก็มีหลายอย่างที่ทำให้นึกถึงวัดโพธิ์นั่นแหละครับ
มาดูที่ริมน้ำมีศาลาริมน้ำที่น่าสนใจทีเดียวครับ มีศาลาหลังหนึ่งน่าจะเก่าที่สุดของวัดนี้ ขนาดเล็ก แต่ที่คอสอง (ด้านในที่ต่อจากหลังคาลงมา) มีงานจิตรกรรมที่วาดบนไม้ ถือว่ามีไม่มากนักที่จะมีจิตรกรรมวาดไว้ที่ศาลาครับ
เป็นทศชาติชากดก คือมีทั้ง 10 ชาติจริง ๆ เรียงกันเลยครับ เต ช สุ เน มะ ภู จะ นา วิ เว ซึ่งน่าจะเป็นช่างพื้นบ้านแต่ฝีมือดี น่าจะมีอายุไม่เกินร้อยปีมานี้ มีการใช้หลัก Perspective ในการวาด (การวาดภาพแบบมีแนวลึกซึ่งเป็นความรู้ใหม่ที่เข้ามาประมาณปลายสมัยรัชการที่ 3 จิตรกรรมสมัยก่อนจะเป็นภาพแบบ 2 มิติ หรือมุมมองแบบ Bird Eye View)
ส่วนศาลาอื่น ๆ ก็สร้างในสมัย 50-60 ปีมานี้ บางศาลาจะมีเขียนปีที่สร้างไว้ด้วย
อีกด้านนึงของแถวศาลามีซุ้มคล้าย ๆ ศาล แต่ด้านในมีพระพุทธรูปเก่าแก่อยู่ 1 องค์
จากวัดบางขุนเทียนใน จะมองเห็นวัด บางขุนเทียนกลางและบางขุนเทียนนอก อยู่คนละฝั่งคลองแต่เยื้อง ๆ กัน และมีสะพานเล็ก ๆ สามารถเดินข้ามไปและเดินผ่านชุมชนเล็กน้อย ก็จะไปถึงวัดบางขุนเทียนกลางครับ
ซึ่งวัดบางขุนเทียนกลางและบางขุนเทียนนอกนี้จะอยู่ติดกัน ซึ่งถ้าขับรถมาสามารถเข้ามาจอดที่วัดได้ โดยใช้เส้นทาง ซอยจอมทอง 19 หรือจะเข้าทางถนนพระราม 2 ซอย 28 (วัดสีสุก)ซึ่งเป็นทางเดียวกันกับ คือจะชม 3 วัดบางขุนเทียนแบบย้อนศรกับบทความนี้เป็น นอก กลาง ใน ก็ได้เช่นกันครับ
วัดบางขุนเทียนกลาง
ก็เป็นวัดเล็ก ๆ มีแค่โบสถ์ ซึ่งอยู่ใกล้ ๆ วัด โบสถ์วัดบางขุนเทียนนอกเลย ก็สร้างตั้งแต่สมัยปลายกรุงศรีอยุธยา มีเรื่องเล่าว่า เคยเป็นวิหารของวัดบางขุนเทียนนอกมาก่อน ต่อมามีเรื่องดราม่าทะเลาะกันของพี่น้องผู้ร่วมกันสร้างวัด เลยแยกตัวออกมาเป็นอีกวัดนึง แล้วยังมีเรื่องแบ่งพรรคแบ่งพวกทะเลาะกันของเด็กในพื้นที่ทั้ง 2 วัด
โบสถ์วัดบางขุนเทียนกลาง จะเป็นแบบราชนิยม กำแพงสอบเข้า หน้าบันปูนปั้นประดับกระเบื้องสวยงาม จะว่าไปก็มีรูปแบบหลายสมัยผสมกัน เกิดจากการบูรณะหลายครั้งนั่นเองครับ
ซุ้มหน้าต่างและซุ้มประตูมีปูนปั้นกระเบื้องเบญจรงค์ บานหน้าต่างประตูลายรดน้ำใหม่มาก และมีบานกระจกติดไว้อย่างดี สังเกตมีหินเสมาบอกอาณาเขตโบสถ์ติดกับกำแพงโบสถ์ ไม่ได้เป็นซุ้มไว้ด้านนอก ถึงบอกว่า ถ้ามาครั้งแรกอาจจะสงสัยว่าเป็นวิหารของวัด บางขุนเทียนนอกที่อยู่ติดกันถ้ายังไม่เห็นใบเสมา
เป็นวัดที่ว่ากันว่าพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าหัวหัว เคยเสด็จประพาสต้นมาที่นี่หลายครั้ง โดยเสด็จมาทางเรือ และทรงฉลองพระองค์แบบจีน ใส่เสื้อกุยเฮง กางเกงแพรปั๋งลิ้น
วัดบางขุนเทียนกลาง
จะมีประเพณีประจำปี มีการแข่งเรือพายหลายรูปแบบ เรือที่มีผู้หญิงเป็นฝีพาย เรือบด เรือที่เป็นกะทะใบใหญ่ ๆ
ศาลาริมน้ำที่น่ารักอีกหนึ่ง เป็นลวดลายขนมปังขิง แต่ดูจะมีลักษณะออกจีน
ชมวัดบางขุนเทียนกลาง เสร็จ ก็เดินมาวัดบางขุนเทียนนอกที่อยู่ติดกันมีแค่คูน้ำเล็ก ๆ ที่มองแทบไม่เห็นแล้ว ก็ถึงวัดบางขุนเทียนนอก ซึ่งถือเป็นวัดที่เก่าแก่ที่สุดในบรรดาวัดบางขุนเทียนทั้ง 3 วัด มีหลักฐานว่าสร้างในปี พ.ศ. 2446 ตรงกับสมัยสมเด็จพระสรรเพชรที่ 8 หรือพระเจ้าเสือ ราชวงศ์บ้านพลูหลวง กรุงศรีอยุธยา แต่เดิมชื่อวัดยมโลก พื้นที่ของโบสถ์วัดบางขุนเทียนนอก จะอยู่ต่ำลงไปกว่าระดับพื้นถนนของวัดในปัจจุบันพอสมควร
โบสถ์ของวัดบางขุนเทียนนอก เป็นแบบราชนิยมเช่นกัน แต่ดูสภาพจะเก่ากว่า โบสถ์วัดบางขุนเทียนกลางอย่างเห็นได้ชัด
ตัวโบสถ์ทั้งด้านหน้าและด้านหลัง มีบังสาด เป็นหลังคาลดชั้น ยื่นออกมาทั้ง 2 ด้าน ตัวโบสถ์ดูคล้าย ๆ โบสถ์ทรง วิลันดา (โบสถ์ที่สร้างโดยชาวบ้าน มีขนาดไม่ใหญ่ สมัยอยุธยาตอนปลาย เลียนแบบอาคารสินค้าของพวกวิลันดาหรือฮอลันดา มักมีทางเข้าออกด้านเดียวหรือ มหาอุด ด้านหน้าจะมีหลังคาลดชั้น หรือ จั่นหับ เอาไว้บังแดดบังฝน สำหรับคนที่จะเข้าไปร่วมงานพิธีในโบสถ์ หรือเตรียมของวางของต่าง ๆ เพราะข้างในมีขนาดเล็ก)
ซุ้มประตูและหน้าต่างเป็นงานปูนปั้น แต่ละซุ้มอาจจะมีแตกต่างกันบ้างพอสังเกตได้ น่าจะเป็นช่างคนละคน บานหน้าต่างประตูลายรดน้ำสวยงามและชัดเจน แต่ไม่มีบานกระจกกันไว้แบบวัดบางขุนเทียนกลาง
ศาลาริมน้ำ วัดบางขุนเทียนนอก ก็มีสวย ๆ ด้วยเช่นกัน
มองจากด้านนอก จะมีรูปปั้นหลวงปู่ทวด สร้างไว้บนวิหารใหม่ของวัด เมื่อ 2-3 ปี ก่อนก็มีเรื่องราวที่ว่า ทางวัดได้สร้างรูปปั้นสัตว์หน้าตาแปลก ๆ เรียกว่า เสือปลัดขลิก จนเกิดเสียงวิพากย์วิจารณ์มากมาย สุดท้ายทางวัดต้องยอมรื้อถอนออกไปทั้งหมด
ครบถ้วนทั้ง 3 วัด เสียดาย วัดบางขุนเทียนทั้ง 3 วัดยังมีสิ่งที่น่าสนใจอีกอย่างพระประธานในโบสถ์และจิตกรรมฝาผนังที่เก่าแก่ ซึ่งโบสถ์จะเปิดเฉพาะวันพระใหญ่หรืองานประจำปีของวัดเท่านั้นครับ ถ้าใครสนใจจะมาเที่ยวชมหรือไหว้พระกันก็เชิญได้ครับ