ผู้เขียน หัวข้อ: เที่ยวฉะเชิงเทรา ถวาย ดอกบัวอบแห้ง เข้าโบสถ์วัดปากน้ำโจ้โล้อายุกว่า 200ปี อุโบสถ  (อ่าน 50 ครั้ง)

siritidaphon

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 966
  • เวบบอร์ดโพสขายฟรี
    • ดูรายละเอียด
เที่ยวฉะเชิงเทรา ถวาย ดอกบัวอบแห้ง เข้าโบสถ์วัดปากน้ำโจ้โล้อายุกว่า 200ปี อุโบสถสีทองอร่าม

ได้มา เที่ยวฉะเชิงเทรา พร้อมกันนี้ ได้ถวาย ดอกบัวอบแห้ง เข้าโบสถ์ ณ วัดปากน้ำโจ้โล้ พระอุโบสถสีทองอร่าม งดงาม วิจิตรตระการตา หนึ่งเดียวในจังหวัดฉะเชิงเทรา ที่นักท่องเที่ยวมากมาย ได้มาสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ณ วัดแห่งนี้ ที่มีอายุกว่า 200 ปีแล้วนะ

เที่ยวฉะเชิงเทรา เที่ยววัดปากน้ำโจ้โล้
เมื่อได้เดินทางมาที่จังหวัดฉะเชิงเทรา หรือที่เราจะคุ้นหูที่ถูกเรียกว่า เมืองแปดริ้ว ที่นี่มีสถานที่ท่องเที่ยวหลายแห่ง แต่มีอยู่ที่หนึ่งที่นักท่องเที่ยวจะต้องแวะ นั่นคือ วัดปากน้ำโจ้โล้ วัดที่มีพระอุโบสถสีทองอร่าม สวยงาม มองเห็นแต่ไกล ที่สำคัญ ลวดลายต่างๆ ยังคงอยู่ในสภาพเดิมๆ แม้ว่าจะผ่านมาแล้วกว่า 200 ปีแล้วก็ตาม

วัดปากน้ำโจ้โล้ ตั้งอยู่ที่ตำบลปากน้ำ อำเภอบางคล้า จังหวัดฉะเชิงเทรา ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำบางปะกง เมื่อมาถึงที่หน้าพระอุโบสถ ต้องบอกเลยว่า มีผู้คนมากมาย เดินทางมาศักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ วัดแห่งนี้ มีประวัติความเป็นมาของประวัติศาสตร์ ซึ่งเดิมเป็นสำนักสงฆ์ตั้งแต่สมัยอยุธยาตอนปลาย โดยที่หน้าวัดจะมีแม่น้ำไหลผ่านมารวมกับแม่น้ำบางปะกง


พระอุโบสถสีทองที่สวยงามตระหง่าน หลังคาประดับด้วยพญานาค และธรรมจักร ตรงกลางมีบุษบกยอดฉัตร บริเวณกำแพงแก้วชั้นนอกตกแต่งด้วยลวดลายธรรมจักรสลับกับโคมไฟรูปช้างสามเศียร เมื่อเข้ามาภายในอุโบสถ จะมีองค์หลวงพ่อโตเป็นพระประธาน ซึ่งได้จำลองมาจากพระพุทธชินราช ด้านหน้าพระประธานมีรูปพระเจ้าตากสิน ด้านบนของอุโบสถมีการสร้างบุษบกไว้ที่ด้านบน เพื่อบรรจุพระบรมธาตุ

เสาแต่ละเสาจะมีลวดลายยักษ์ประดับอยู่ทุกต้น ประดับลวดลายทุกซุ้มประตู บริเวณบันไดประดับด้วยคชปักษาคู่ บริเวณระเบียงของพระอุโบสถประดับด้วยลวดลายหนุมานแบกแท่น ด้านหลังพระอุโบสถประดับด้วยพระพุทธรูปปางห้ามสมุทร ภายในเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธปางมารวิชัย

สำหรับลวดลายภายในอุโบสถ มีการนำลวดลายปูนปั้นจำหลัก หรือใช้แม่พิมพ์สร้างงาน ประดับตกแต่งใช้สีทองทั้งหมดเหมือนกับภายนอก เรียกได้ว่าสวยงาม และทรงคุณค่า ไร่หนึ่งอรุณ ขอถวายดอกบัวอบแห้ง คู่หนึ่ง เป็นพุทธบูชา แด่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า โดยมีพระที่อยู่ภายในอุโบสถ เป็นผู้รับมอบ และนำไปวางไว้ที่หน้าพระนอน ในพระอุโบสถนั่นเอง


ประวัติความเป็นมาของวัดปากน้ำโจ้โล้
อดีตนั้นบริเวณวัด เคยเป็นที่ตั้งฐานทัพของพม่า ที่เดินทางมาที่ประเทศไทยทั้งทางบก และทางเรือ โดยที่มาของคำว่ โจ้โล้ นั้น มาจากการที่ สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ทรงวางแผนยุทธการการสงคราม โดยทำการเข้าตีทหารพม่า โดยการที่ทรงโล้เรือมาตามน้ำ ทหารพม่าเมื่อเห็นจึงคิดว่าพระองค์ท่านเดินทางมาคนเดียว จึงชล่าใจ แล้วทหารไทยจึงซุ่มล้อมโจมตีจนชนะแก่พม่า

สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ท่านจึงโปรดเกล้าฯ ให้สร้างเจดีย์ขึ้นมา ณ บริเวณวัดแห่งนี้ เพื่อที่จะได้เป็นอนุสรณ์ถึงการศึกในครั้งนั้น และมีผู้คนที่ล้มตายจำนวนมาก แต่ปัจจุบันนี้เจดีย์นี้ได้ถูกน้ำเซาะจนพัง กรมศิลปากรได้สร้างขึ้นใหม่ ในบริเวณเดิมนั่นเอง

วัดปากน้ำโจ้โล้เดิมเป็นสำนักสงฆ์อยู่ในสมัยอยุธยาตอนปลาย หน้าวัดมีคลองไหลผ่านมารวมกับแม่น้ำบางปะกง พื้นที่บริเวณนี้เป็นที่ตั้งของทัพพม่า ซึ่งมีทั้งทัพบกและทัพเรือ ได้ต่อสู้และพ่ายแพ้ทัพของสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช พระองค์จึงโปรดเกล้าฯ ให้สร้างเจดีย์ขึ้น ณ ที่แห่งนี้ เพื่อเป็นอนุสรณ์ (แต่ต่อมาเจดีย์นี้ถูกน้ำกัดเซาะพังทลายลงไปหมด กรมศิลปากรจึงได้สร้างขึ้นมาใหม่ในบริเวณเดิม)

นอกพระอุโบสถมี ศาลาปู่หมอชีวกโกมารภัทร ปู่นารอด ปู่ตาไฟ และ ศาลสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ทรงประทับท่านั่งพระหัตถ์สองข้างกำดาบที่วางอยู่บนพระเพลา ด้านข้างเป็นรูปปั้นทหารองครักษ์ ให้นักท่องเที่ยวได้มากราบไหว้